(อาจมีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนนะครับ)
หลังจากที่รอคอยมานานพอสมควรแล้ว ในที่สุด หนังที่กำกับโดย ผู้กำกับหญิงรางวัลออสการ์คนแรก(และอดีตเมียของ เจมส์ คาเมรอน) แคทลีน บิเกโลว์ เรื่อง ZERO DARK THIRTY - ยุทธการถล่ม บิน ลาเดน ก็ได้เข้าฉายเป็นรอบพิเศษ เพียงแค่สามที่เท่านั้นตั้งแต่ วานนี้ (17 มกราคม 2556) รอบ 20.00 น. ได้แก่ พารากอน , SF WORLD และ ลิโด้ ซึ่งผมได้ไปดูที่ลิโด้ เพราะเหตุผลส่วนตัว แต่ก็ต้องมีอึ้งนิดนึงตรงที่ แม้จะเป็นลิโด้ แต่คนเยอะมากเกือบเต็มโรงเลยครับ
ตั๋วหนังของลิโด้ รอบแรกของบ้านเราเลยนะ ฉายตอน 20.15 (ถามคนที่ดูที่อื่น ฉาย เกือบ 20.30)
เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า หนังเรื่องนี้ปะหน้าว่าเป็น เรื่องที่สร้างมาจากคำให้การของพยานในเหตุการณ์จริง และเริ่มต้นด้วยเสียงจากเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งผู้ชมจะได้ยินแต่เสียง ในขณะที่จอภาพเป็นสีดำ น้ำเสียงที่สับสนวุ่นวาย เสียงของคนที่กำลังจะตาย ผู้ประสบเหตุในเหตุการณนั้น และหายไป ภาพตัดกลับมา ใน 2 ปีให้หลัง ซึ่งเปิดตัว มายา (Jessica Chastain ) และ แดน (Jason Clarke) กำลังซ้อมนักโทษ ชื่อ แอมมาร์(Reda Kateb) หนึ่งในผู้ต้องหา และภารกิจนี้มีเป้าหมายเดียว คือ บิน ลาเดน
การสืบสวนและการตามล่าตัวของบิน ลาเดนนั้นหนังแสดงให้เห็นถึงความพยายาม อย่างเต็มรูปแบบ ทั้ง คน เงิน เทคโนโลยี แต่แล้วความผิดพลาดเพียงนิดเดียว ก็นำไปสู่ช่วง 30 นาทีสุดท้ายในภารกิจเด็ดหัวบิน ลาเดน
จุดเด่นในหนังเรื่องนี้ที่ผมชอบคือ บทสนทนา ที่ตลกช่วยลดความเครียดของบทหนังและที่เจ๋งคือมันไม่ทำลายเนื้อหาเลย แต่ช่วยให้หนังไม่เครียดเกินไปนัก (หนังเครียดโคตรรรรรรรร) และที่สำคัญหนังยังนำเสนอฉากการทรมาน อย่างแสนสาหัสเพื่อให้นักโทษเปิดเผยข้อมูลที่ถึงแม้จะไม่แหวะ แต่อารมณ์ โหดร้ายกลับตั้งคำถามให้เราว่า "ถ้าเราต้องทำถึงขนาดนั้นเพื่อให้ได้ข่าวสาร แต่มันทำให้เราไม่ต่างจากนักโทษ เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ " เห็นได้จากเหตุการณ์ ช่วงครึ่งหลังของหนังที่แสดงให้เห็นว่า การกระทำแบบนั้นส่งผลเสียอย่างไร ในแง่ของหน้าที่ การงาน และผลพวงที่ทำให้เหตุการณ์พลิกผันจนต้องใช้ ยุทธวิธีอื่นในการตามล่าตัวบินลาเดน
ผกก. แคทลีน ยังได้สร้างผลงาน ที่ดุดันและจริงจังเหมือนอย่างที่เคยทำใน THE HURT LOCKER และทีมนักแสดงก็ได้ทำหน้าที่ดีอย่างที่ผมตั้งความหวังไว้นะครับ
โดยรวมหนังมีเนื้อหาที่หนักแน่น แต่กราดำเนินเรื่องนิ่งไปนิดนึง ไม่ค่อยมีฉากบู๊ มากนัก แต่นั่นไม่ได้หมายถึงหนังไม่สนุกนะครับ หนังสนุกที่สถานการณ์และบทพูด ยกตัวอย่างมาสักบท เช่น ฉากที่ CIA ที่ผู้อำนวยการ ถามถึงความรู้สึกที่ผู้ร่วมงานมีต่อนางเอกว่ารู้สึกอย่างไร
"คุณคิดยังไงกับเธอคนนี้"
"เธอฉลาดเป็นกรด"
"เราทุกคนในที่นี้ฉลาดหมดแหละ"
ผมขำนะคิดดูสิ CIA นะครับ จะรับเด็กกะโหลกกะลาหรือไง
สรุป
นี่คือหนังที่น่าดูชมอย่างยิ่ง กับคนที่ชอบหนังแนวสงครามที่ไม่ค่อยมีฉากถล่มกันมากมายครับและแน่นอน หนังไม่มีการเมืองนะครับ ดูได้สบายๆๆ (ฮาาาาาา)
ปิดท้ายกับฉากนี้ครับที่ผมชอบเป็นการส่วนตัว ชอบตรงไหนลองไปดูแล้วคิดกันเองนะครับ
ปล.
หนังเรื่องนี้ จัดฉายรอบพิเศษ แค่สามที่เท่านั้นนะครับ คือ พารากอน,SF WORLD และลิโด้ รอบ 20.00 น. และฉายจริง สิ้นเดือน ส่วนเรตหนัง 15+ ครับ
(ไม่รู้จะบอกทำไมเรตหนัง จัดไปก็เท่านั้น)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น