หลายๆครั้งในการทำงานของผม มักจะโดนลูกค้าถามเสมอว่า "ถ้าพี่จะซื้อ Mac น้องแนะนำแบบไหน? "แล้วแบบนี้กับบบนี้ล่ะ?" "พี่มีคอมอยู่ที่บ้าน แต่อยากใช้Mac เอารุ่นไหนดี?" ซึ่งผมคิดว่า ในหลายๆครั้งคำแนะนำที่ผมให้อาจจะไม่ชอบ ก็ได้ด้วยเหตุผลอะไรหลายๆอย่าง ผมเลยคิดว่า การเขียน รีวิว แบบเกรียนของผมน่าจะช่วยทุกคนได้บ้าง ในการเลือก Mac ในแบบของคุณ แต่ก่อนที่ผมจะแนะนำ เราก็น่าจะมาลองดู แนวคิดและ ระบบของ Mac กันก่อนดีกว่าไหมครับ ????
(ไม่เอาประวัตินะ มันยาว เอาง่ายๆ แบบ มินิมอลลิสต์ ฮาาา )
ปล.นี่เป็น บทความจากความเห็นส่วนตัวล้วนๆ งดดราม่า นะจ๊ะ
Mac คืออะไร ?
ตอบง่ายๆ Mac คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ของ Apple นั่งเองครับ โดย แบ่งเป็น 2 แบบ คือ แบบ NoteBook และแบบ Desktop แล้วสองแบบนี่ต่างกันยังไง..... ลักษณการใช้งานมันก็บอกแล้วนะครับ
แบบ NoteBook เป็นยังไง?
ในปัจจุบัน เครื่อง Mac แบบ NoteBook มีหลักๆ 2แบบ ครับ คือ MacBook Air และ MacBook Pro โดยตัวหลังแบ่งเพิ่มได้อีกรุ่นคือ MacBook Pro with Retina Display ครับ ซึ่งถือเป็นรุ่นสูงสุดของ แบบ NoteBook ครับผม
ส่วนหน้าจอนั้นมีตั้งแต่ 11นิ้ว , 13นิ้ว และ 15นิ้ว ครับ
MacBook Air
ผมขอเริ่มต้นด้วย NoteBook รุ้นเล็กของ Apple นามว่า MacBook Air
MacBook Air เปิดตัวมาเป็น NoteBook ขนาดเล็ก ที่เน้นน้ำหนักเบา ประสิทธิภาพในการดึงข้อมูลสูง กว่ารุ่น Pro ถึง 2 เท่า (เขาว่ามา) มีขนาดหน้าจอ 11 และ 13 นิ้วครับ โดยในแต่ละขนาดหน้าจอ จะแบ่งย่อยออกเป็น 2 Spec อีกครับ แบ่งง่ายๆแบบนี้
สรุปข้อดี
- เบามาก (11นิ้ว อยู่ที่ประมาณ 1กิโล 13นิ้วอยู่ที่ 1.5 กิโล ครับ)
- การดึงข้อมูลเร็วกว่ารุ่นพี่พอสมควรครับ เพราะใช้ HDD แบบ FLASH
- Keyboard แบบเรืองแสงในความมืด เหมาะกับคนที่ต้องทำงานในที่แสงน้อย
- วัสดุเป็นอลูมิเนียม ความคงทนสูง
- ไม่ต้องปิดเครื่อง แค่พับหน้าจอ เข้าสู่โหมด Sleep ได้ทันทีโดยไม่มีผลต่อการทำงานของเครื่อง (เพราะรุ่นทั่วไป ใช้ HDD แบบจานหมุน ซึ่งถ้ากระทบ อาจทำให้เข็มหัก พังอีก จบ) Apple บอกว่า Stand By ได้นานถงึ 30 วัน (ไม่เคยลองนะเธอ)
ข้อด้อย
- Port เชื่อมต่อน้อยมาก เช่น ไม่มี Firewire 800 , HDMI และสาย LAN (ต้องซื้อหัวแปลงเพิ่มเติม) ช่องใส่ CD ก็ไม่มีนะ ซื้อแยก ช่องใส่ SD Card สำหรับ 13 นิ้ว เท่านั้น
- HDD ทีให้มาน้อยมากกกกกก เก็บข้อมูลได้ไม่เยอะเลยถ้าเทียบกับราคา ที่มหาศาล (แต่การดึงข้อมูลไวโคตร)
- ตัดต่อหนัง หรือ รูปภาพได้แค่แบบง่ายๆ แปลว่า Final Cut Pro จบนะครับ ไม่รอดด
- หน้าจอไม่มีกระจกติดแบบรุ่นใหญ่นะครับ (แหมมม เน้นเบานี่ ) ฉะนั้นต้องระวังอะไรไปทำร้ายหน้าจอนะครับ (เคยเจอนะครับ เปลี่ยนจอกระจายเลย)
- Spec เพิ่มทีหลังไม่ได้นะครับ ตายตัวมาเลย (สั่งเพิ่มได้ครับ)
แล้วเหมาะกับใคร??
MacBook Air เหมาะกับคนที่ต้องการความเบา ความสะดวกในการพกพา แม้ CPU จะน้อยกว่ารุ่นพี่ แต่มีดีที่ HDD แบบ FLASH (นึกไม่ออก นึกถึง FLASH DRIVE นะครับ คล้ายๆกัน) ทำให้ดึงข้อมูลได้เร็วมาก และน้ำหนักที่เบาหวิววววว ดังนั้น ถ้าอยากได้แบบ เบา เบา เน้นทำงานเอกสาร ตัดต่อ วีดีโอ นิดหน่อย ตกแต่งภาพง่ายๆ และไม่ติดใจเรื่อง HDD ที่โคตรน้อยยยย นี่คือคำตอบของคุณครับ
VIDEO
MacBook Pro
มาถึงรุ่นยอดฮิตสนั่นลั่นทุ่ง (ไม่เชื่อลองเดินไปดูสิครับ เจอ 10 เครื่อง 7ใน10 แม่งก็รุ่นนี้แหละครับ)
1 ใน NoteBook ที่ขายดีที่สุดในโลก (โม้เอง 555)
MacBook Pro ผมขอนิยามเป็น "NoteBook ราคาประหยัดของ Apple" ครับ เพราะด้วยราคาเริ่มต้น ที่ 3 หมื่นปลายๆ และเทียบ Spec ที่มาตราฐาน ที่สุดแล้ว พร้อม Port เชื่อมต่อ ที่มีให้เยอะจริงๆ
ไล่มาตั้งแต่ USB 3.0 Firewire800 สาย LAN ช่อง SD Card และ ช่องใส่ CD (Air น้อยใจเบยยยย )
แต่แน่นอน ว่า ต้องแลกมาด้วยน้ำหนักที่มากขึ้น (13นิ้วหนักประมาณ 2กิโล 15นิ้วหนักประมาณ 2.5กิโล)
สำหรับ MacBook Pro เนี่ย นอกจากหน้าจอของมันจะแบ่งเป็น 2 ขนาดแล้ว ทั้ง 2 ขนาด ก้แตกต่างกันพอควร ฉะนั้น จะขอแยกออกไปเลยนะครับ โดยเริ่มจาก 13นิ้ว
จากรูปภาพจะเห็นว่า ตัว 13นิ้วนั้นแบ่งเป็น 2รุ่น ซึ่งทำให้การตัดสินใจง่ายมาก โดย รุ่นนี้ออกแบบมาให้ใช้งานพื้นฐานได้หมดเลย ทั้งตัดต่อ เอกสาร เกมส์ (แต่แน่นอนว่า เจอหนักๆ Final Cut ก็ไม่ไหวนะ)
ด้วยขนาดและ Port เชื่อมต่อที่เกือบครบ (ไม่มี HDMI VGA ซื้หัวแปลงแยกนะจ๊ะ) ทำให้มือใหม่ใช้ Mac เลือกที่จะซื้อตัวนี้มากที่สุด ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา แหละครับ
ต่อไปกับ MacBook Pro 15นิ้วครับ
MacBook Pro 15 นิ้ว นับเป็นรุ่นที่ราคาสูงที่สุด (ไม่นับ Retina นะครับ อันนั้นขอแยกออกไป) ในสารบบ ของ Mac ด้วย Spec ที่สูง และ ประสิทธิภาพ นักตัดต่อ ทำหนัง เพลง ส่วนใหญ่เลือกที่จะสอยรุ่นนี้ครับ โดยจุดเด่นของรุ่นนี้คือ การ์ดจอแบบแยก ที่ทำให้การประมวลผลด้านภาพดีขึ้นมากกว่า รุ่น 13 นิ้ว หรือ Air ที่เป็นแบบ On Board ครับผม
ต่อมาก็คือลำโพง ที่ ใหญ่มากกกกก ชอบเบยยย สำหรับคนที่ต้องการเสียงดังไป 3บ้าน8บ้านครับ
สรุปข้อดี
- ราคา และคุณสมบัติ มาตราฐาน สมเหตุผล
- หน้าจอมีกระจกกั้นไว้อีกชั้นนึงทำให้ป้องกันหน้าจอจริงๆ ได้พอสมควร
- Port เชื่อมต่อแบบต่างๆมีมาให้เกือบครบ ช่องใส่ CD ก็มีนะครับ
- วัสดุที่ทำมีความทนทานสูงครับ อลูมิเนียม นี่หว่า
- สามารถ อัพSpec ภายหลังได้ครับ HDD,RAM ประมาณนี้
ต่อไปเพิ่มเติมสำหรับ 15นิ้วครับ
- ลำโพงดังโคตรๆๆๆ
- การ์ดจอแยก อันนี้เด็ด สำหรับนักตกแต่ง ตัดต่อหนักๆ
- หน้าจอใหญ่ (เอ่อ เขาคิดไม่ออกง่ะ)
ข้อด้อย
- น้ำหนักมาก 13 2kg. , 15 2.5kg. (ประมาณนะครับ) ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการความเบา
- อลูมิเนียม ทำให้การดูแลยากนิดนึงเพราะถ้าเป็นรอยเช็ดออกยาก
- HDD ที่ให้มาเป็นแบบจานหมุน นั่นแปลว่า ถ้ากระแทกแรงๆเข็มหักได้นะเธอ (เปลี่ยนทีหลังได้)
แล้วเหมาะกับใคร
MacBook Pro ทั้งสองรุ่นเหมาะกับคนที่ ต้องการความคุ้มค่าในการใช้งาน แบบ "ครบเครื่อง"
ทั้งราคา และคุณภาพ ด้วย การเชื่อมต่อแบบต่างๆ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยน้ำหนักที่มากขึ้น และ ความเร็วในการดึงข้อมูลที่ลดลง (HDD แบบหมุน หรือจะสู้ แบบ FLASH) ตัวนี้แหละครับที่เหมาะกับคุณ
เมื่อมาถึงตอนนี้ แล้วยังมีคนคิดว่า อยากได้ NoteBook ที่มันเจ๋งกว่านี้ มีอะไรให้ถลุงอีกไหม? ที่บบ้านรวยยย อยากเอาหนักๆ อ่ะ จัดไป กับรุ่นนี้ครับ โคตรพ่อโคตรแม่สุดๆกับตัวนี้ที่พึ่งเปิดตัวไม่นาน กับ
นี่เลย รุ่นสุดๆ ของ MacBook นาม MacBook Pro with Retina Display ด้วยชื่อก็บอกแล้วว่ามันมีดีตรงไหน แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมมองว่า มันก็มีการเพิ่มขึ้นของหน้าจอที่คมชัดมากกกกก แล้วก็น้ำหนักที่เบา ขึ้น (13นิ้ว 1.5กิโล 15นิ้ว 2กิโล โดยประมาณ)
นอกนั้นก็เหมือนกันๆ กับรุ่นปกติครับ ฉะนั้นตัวนี้ผมจะขอละไว้ในฐานที่เข้าใจนะครับ
เอาละครับ จบแล้วกับการรีวิว Mac แบบพกพา ครับ ชอบแบบไหน ก็ลองเอาไปประกอบการพิจารณานะครับ เพราะผมเชื่ออยู่แล้วว่าทุกคน มีความต้องการแตกต่างกัน ฉะนั้น บทความนี้อาจจะช่วยผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อยครับ
สำหรับตอนต่อไป ผมจะมาเล่าถึง Desktop นั่นคือ Mac mini , iMac และ Mac Pro ครับ